นาเกลือกับสายลมทะเล – สัมผัสวิถีชีวิตคนทำเกลือแบบดั้งเดิม สมุทรสงคราม
- เที่ยวเมืองรอง ใกล้กรุงเทพ
- เที่ยวอัมพวา 2 วัน 1 คืน
- เที่ยวสมุทรสงคราม 2 วัน 1 คืน
- นาเกลือ สมุทรสงคราม
- เที่ยวใกล้กรุงเทพ
ขับรถลงใต้เมื่อไหร่ ก็จะเห็นนาเกลือสองข้างถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของจังหวัดสมุทรสงคราม “นาเกลือสมุทรสงคราม” เป็นมากกว่านาเกลือเพราะเกี่ยวพันธุ์กับวิถีชีวิตของคนไทยทั้งประเทศที่ต้องใช้ “เกลือ” กับทั้งการบริโภค และ อุปโภค แต่มีน้อยคนนักที่จะได้รู้ “ที่มาของเกลือ” ว่าต้องผ่านกระบวนการอะไรบ้าง…วันนี้ผู้เขียนจะพาคุณไปรื้อเกลือจากนา และ ไปดูผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนาเกลือ ซึ่งจะทำให้คุณทึ่งกับผลผลิตที่ได้จากวิถีชีวิตที่สืบทอดกันมานับพันปี
วิถีทำนาเกลือของไทยที่ยังคงอยู่
ถ้าคุณกำลังมองหาการหลีกหนีจากความวุ่นวายในกรุงเทพฯ ไปสู่ความเงียบสงบที่เรียบง่าย สมุทรสงครามคือคำตอบที่คุณอาจยังไม่เคยรู้จักมาก่อน ด้วยระยะทางไม่ไกลจากเมืองหลวง จังหวัดเล็กๆ ริมทะเลแห่งนี้อัดแน่นไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว โดยเฉพาะในพื้นที่ นาเกลือแบบดั้งเดิม ที่คุณจะได้สัมผัสกับสายลมทะเล แสงแดด และวิถีชีวิตที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติมานานนับร้อยปี
“เกลือ” อาจเป็นเพียงเครื่องปรุงในสายตาหลายคน แต่สำหรับชาวสมุทรสงคราม มันคือวิถีชีวิตที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน นาเกลือริมชายฝั่งของที่นี่คือหนึ่งใน แหล่งผลิตเกลือทะเลที่เก่าแก่ของประเทศไทย โดยใช้กระบวนการที่พึ่งพาธรรมชาติและแรงงานคน มากกว่าจะใช้เครื่องจักรแบบอุตสาหกรรม
ชมกระบวนการทำนาเกลือท่ามกลางแดด ลม และกลิ่นทะเล
คุณเคยนำ “ดอกเกลือ” มาทำอาหารไหม รู้ไหมว่าดอกเกลือมาได้อย่างไร…เราไปหาคำตอบกันครับ
ครั้งแรกที่ผู้เขียนได้ไปเดินย่ำนาเกลือในสมุทรสงคราม รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกอีกใบ ท้องทุ่งที่ปกคลุมด้วยผลึกเกลือสีขาวระยิบระยับดูสวยงามราวกับภาพวาด ชาวนาเกลือในหมวกปีกกว้างค่อยๆ ใช้ลั่วถางเกลือให้เป็นกองเรียงรายเป็นแนว การทำนาเกลือที่นี่อาศัยน้ำทะเลที่ปล่อยเข้าสู่แปลงเกลือตื้นๆ จากนั้นปล่อยให้แสงแดดระเหยน้ำออกไป เหลือเพียงเกลือบริสุทธิ์ให้เก็บเกี่ยวด้วยมือ
มันเป็นงานที่ดูเรียบง่ายแต่จริงๆ แล้วต้องอาศัยทั้งความรู้ ความชำนาญ และการทำงานที่สอดคล้องกับธรรมชาติ การได้เห็นกระบวนการตรงหน้าทำให้ฉันรู้สึกเคารพในอาชีพนี้อย่างลึกซึ้ง เราไปไล่เรียงกระบวนการตั้งแต่เริ่ม จนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิตกัน
- ปรับดินในแปลงนาให้เรียบและแน่น
- ปล่อยน้ำจากนาวังเข้านาตากเพื่อระเหยน้ำทะเล ให้ความเค็มอยู่ที่ระดับ 3-5 ดีกรี
- ปล่อยน้ำเข้าสู่นารองเชื้อ เพื่อให้ความเค็มอยู่ที่ระดับ 15 ดีกรี
- ปล่อยน้ำสู่นาเชื้อ เพิ่มความเค็มไปที่ระดับ 20-25 ดีกรี
- ปล่อยน้ำสู่นาปลงเข้าสู่กระบวนการตกผลึก เตรียมเก็บเกี่ยว “ดอกเกลือ” เป็นขั้นตอนแรก และ เกลืออื่นๆ ในขั้นตอนต่อๆ ไป
พบปะชาวนาเกลือ: ผู้สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น
สิ่งที่ทำให้การเดินทางครั้งนี้น่าจดจำยิ่งกว่าทัศนียภาพ ก็คือการได้พูดคุยกับลุงโต และพี่ๆ น้องๆ ของลุง ชาวนาเกลือรุ่นที่สามที่ยังคงทำงานในไร่เกลือของครอบครัว หรือ เช่าพื้นที่มาอย่างยาวนาน ลุงเล่าให้ฟังอย่างภาคภูมิใจถึงวิธีที่สืบทอดกันมาจากพ่อและปู่ของลุง “เหนื่อยนะ แต่เป็นงานที่ซื่อสัตย์ และเราทำด้วยใจ” ลุงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
การได้ฟังเรื่องราวชีวิตจริงจากชาวบ้านช่วยเติมเต็มประสบการณ์ได้อย่างแท้จริง ทำให้รู้สึกว่าเกลือแต่ละเม็ดไม่ได้มีแค่รสชาติ แต่มีเรื่องราวและจิตวิญญาณของผู้คน วัฒนธรรม ที่สะท้อนให้เห็นว่าอาชีพนี้ให้ความเคารพพลังของธรรมชาติอย่างมาก
สัมผัสประสบการณ์ทำนาเกลือด้วยตัวเอง
การไปเยี่ยมชมนาเกลือในสมุทรสงครามไม่ใช่เรื่องยากเลย ช่วงเวลาที่ดีที่สุดคือระหว่าง เดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน ซึ่งเป็นฤดูแห้งและเหมาะที่สุดสำหรับการผลิตเกลือทะเล หลายพื้นที่เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว โดยมี ทัวร์นาเกลือแบบมีไกด์นำชม และกิจกรรมให้ลองเก็บเกลือด้วยตัวเอง พร้อมเกลือสดใหม่ให้ติดมือกลับบ้าน
คุณยังสามารถแวะเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา หรือ ตลาดร่มหุบแม่กลอง ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกจากการที่รถไฟวิ่งผ่ากลางตลาดได้อีกด้วย รับรองว่าคุณจะได้ทั้งรูปสวยและประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่น
ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ยั่งยืน
ด้วยความสนใจที่เพิ่มขึ้นใน การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในประเทศไทย นักท่องเที่ยวจึงมีบทบาทสำคัญในการช่วยรักษาวิถีชีวิตของชาวนาเกลือ การซื้อเกลือหรือสินค้าท้องถิ่นจากผู้ผลิตโดยตรง ไม่เพียงสนับสนุนรายได้ของพวกเขา แต่ยังช่วยให้วิถีการผลิตแบบดั้งเดิมนี้มีโอกาสถูกส่งต่อไปยังคนรุ่นใหม่ ไม่สูญหายไปตามกาลเวลา ซึ่งหากวันหนึ่งเกลือสมุทรหายไปจากประเทศไทย จะมีผลกระทบกับวิถีชีวิตคนไทยอย่างแน่นอน
แนะนำ: หากคุณจะมาเที่ยวนาเกลือ มาเริ่มต้นได้ที่ “โรงเรียนสอนทำนาเกลือ” ซึ่งลุงโตทำงานร่วมกับชุมชน ใช้แนวทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ได้ทั้งความรู้และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
จากสมุทรสงคราม... ถึงจิตใจที่เต็มไปด้วยเกลือและเรื่องเล่า
ก่อนกลับ ผู้เขียนซื้อดอกเกลือ และยาสีฟันซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตผลจากนาเกลือติดมือกลับบ้าน แต่นอกจากเกลือ ยังพกเอาความทรงจำ ความสงบ และมุมมองใหม่เกี่ยวกับชีวิตที่เรียบง่ายแต่มีคุณค่ากลับมาด้วย หากคุณกำลังมองหาทริปที่ต่างไปจากการท่องเที่ยวทั่วไป ที่นี่คือจุดหมายที่ควรปักหมุด
นาเกลือในสมุทรสงคราม ไม่ใช่แค่จุดท่องเที่ยว แต่มันคือบทเรียนเรื่องการใช้ชีวิต การเคารพธรรมชาติ และความภาคภูมิใจในรากเหง้าของตนเอง
ไปเที่ยวนาเกลือ
เรียนรู้เรื่องเกลืออย่างลึกซึ้งที่ โรงเรียนฅนนาเกลือ จ.สมุทรสงคราม ก่อตั้งโดยลุงโต คุณปรอด เจริญฤทธิ์ โทร. 081-856-2673 โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะรักษาวิถีการทำนาเกลือ และผลิตเกลือโดยใช้วิธีตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังใช้ BCG Model เข้ามาดีไซน์การออกแบบกิจกรรมด้วย
กิจกรรมในโรงเรียนฅนนาเกลือที่ผู้มาเยือนจะได้ร่วมเรียนรู้ไปกัน ดังนี้
- รู้และเข้าใจการเดินทางของเกลือ
- กิจกรรมทำแป้งเกลือจืด
- กิจกรรมทำไอติมโบราณ
- กิจกรรมทำดินฝุ่น ไข่เค็ม
- กิจกรรมทำเกลือสี
- กิจกรรมทำสบู่เกลือ
- กิจกรรมทำดอกเกลือสปา
- กิจกรรมปลูกป่าชายเลน
หมายเหตุ: กิจกรรมอาจมีการเปลี่ยนแปลง โทรติดต่อ เพื่อสอบถามข้อมูลก่อนเดินทางไปทุกครั้ง
ที่เที่ยวครอบครัว สมุทรสงคราม
สมุทรสงคราม “ที่เที่ยวธรรมชาติ ใกล้กรุงเทพ” วิถีชีวิตท้องถิ่นที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติ สะท้อนถึงเอกลักษณ์เฉพาะของชุมชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำและผูกพันกับทรัพยากรธรรมชาติ และวัฒนธรรม เสน่ห์ของแม่กลอง อาหารการกินจากทะเลอ่าวไทย สร้างสีสันและประสบการณ์ให้กับทุกครอบครัวได้ใช้เวลาอย่างมีคุณภาพ
พาเด็กๆ ไปเรียนรู้นอกห้องเรียน “คุณค่าของป่าชายเลน” ให้พวกเค้าได้ลองปลูกป่าชายเลนด้วยตัวเอง ในขณะที่คุณพ่อ คุณแม่ร่วมสนุกไปกับเค้า ที่ชุมชนคลองโคนมีการจัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลนเพื่อรักษาธรรมชาติและสร้างความยั่งยืน คนในพื้นที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตที่อยู่ร่วมกับป่าชายเลนและสัตว์น้ำ นักท่องเที่ยวที่มาปลูกป่าชายเลนที่นี่จะได้สัมผัสถึงคุณค่าของป่าชายเลนที่ช่วยปกป้องชายฝั่ง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ และยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ริมชายฝั่ง
พาเด็กๆ มาย้อนรอยประวัติศาสตร์ จุดเริ่มต้นการกู้ชาติที่ค่ายบางกุ้ง ให้พวกเค้าได้รู้ว่าบรรพชนได้ทุ่มเท เสียสละอย่างไรเพื่อช่วยกันปกป้องแผ่นดินนี้ไว้ให้พวกเค้า
พาเด็กๆ คุณพ่อ คุณแม่มานั่งรถไฟเส้นทางประวัติศาสตร์ แม่กลอง-บ้านแหลม ซึ่งเปิดให้บริการมาแล้วกว่า 116 ปี นั่งรถถีบ 3 ล้อเที่ยวท่าฉลอม แวะทานอาหารอร่อยๆ ริมน้ำแม่กลอง
อีกหนึ่งไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ คาดหวังคือ เที่ยวอัมพวากลางคืน ได้ล่องเรือไปชมฝูงหิ่งห้อย ซึ่งเป็นประสบการณ์ทางธรรมชาติที่นับวันจะหาชมได้ยากขึ้น กิจกรรมนี้จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงโดยเรือแบบรวม แต่ถ้าเป็นการเช่าเหมาลำ คุณสามารถออกนอกเส้นทางปกติ เพื่อค้นหาแสงหิ่งห้อยสร้างประสบการณ์ส่วนตัวได้
เตรียมงบไว้คนละ 300 บาท พาเด็กๆ ไปล่องแพที่บางแก้ว กิจกรรมท่องเที่ยวชุมชน สัมผัสธรรมชาติและวิถีชีวิตท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด กิจกรรมนี้เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ล่องแพไปตามลำคลอง ชมความงดงามของป่าชายเลน และสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้ชิมอาหารท้องถิ่นที่สดใหม่และอร่อย
ณ ทรีธารา ที่พักอัมพวา ริมน้ำ
ตอบโจทย์ผู้เขียน มาเที่ยวด้วย ทำงานไปด้วย ทั้งที่ในห้องพัก ห้องอาหาร และร้านอาหารแมงโกรฟ คาเฟ่ ต่างมีพื้นที่เหมาะๆ ให้นั่งทำงานได้อย่างสบาย หรือ กรณีมาเที่ยวกันเป็นกลุ่ม ก็เรียกใช้บริการห้องประชุม, สัมมนา, อีเว้นท์, กิจกรรมงานเลี้ยงสังสรรค์ และอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งบริเวณภายในห้องจัดเลี้ยงสัมนา และบริเวณภายนอกพื้นที่สนามกลางแจ้งริมน้ำแม่กลอง มีพื้นที่จัดงานหลายแบบ อาทิเช่น
- ห้องประชุม 4 รูปแบบ ทั้งขนาด 10 คนไปถึงมากกว่า 400 คน (400 คน รองรับได้ที่ลานกลางแจ้งริมแม่น้ำ ซึ่งพื้นที่นี้เหมาะกับจัดเลี้ยง)
- ห้องประชุมริมน้ำ เรียกว่า ส่วนตัว ใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมพื้นที่จัดกิจกรรมภายนอก
- อุปกรณ์สนับสนุนการประชุม สัมมนา
- คอฟฟี่เบรก อาหาร และ บริการบุฟเฟ่ต์หลากหลาย
- พ้องพัก 42 ห้อง และ วิลล่า 18 หลัง รองรับผู้เข้าพัก 120 ท่าน
- กิจกรรมท่องเที่ยวระหว่าง หรือ จบประชุม สัมมนา